ยุทธศาสตร์ในการจัดการกระบวนการทางธุรกิจที่โดดเด่น (Strategies for Optimal Business Process Management)
- Dr.Eng.Siripong Jungthawan
- 12 minutes ago
- 1 min read
การดำเนินธุรกิจโดยไม่มีขั้นตอนที่เป็นระเบียบ เสมือนการพยายามแล่นเรือที่มีรูในลำเรือ
คุณอาจจะเดินหน้าไปได้ แต่คุณกำลังสูญเสียพลังงานและทรัพยากรตลอดทาง
แล้วเราจะอุดรูเหล่านั้นได้อย่างไรกันละ
เราจะ ปรับปรุงกระบวนการทางธุรกิจ (BPM) อย่างไรเพื่อให้แน่ใจว่าทุกขั้นตอนเพิ่มคุณค่า ผลิตภาพ และลดของเสีย ให้พวกเราพาคุณไปดูกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพ ที่ค้นเราได้ใช้กับหลายๆ องค์กรแล้วได้ผลเป็นอย่างดี พร้อมไหมมาลงรายละเอียดเชิงลึกกันได้เลย
ทำไมธุรกิจต้องปรับปรุงกระบวนการทางธุรกิจตอนนี้
เคยรู้สึกไหมว่าทีมของคุณกำลังวิ่งวนอยู่ในวงกลม ทำงานแบบงงๆ กระบวนการสลับซับซ้อน หรือว่าบางงานใช้เวลานานโดยไม่มีผลลัพธ์ที่ชัดเจน อนุมัติไปแล้ว แต่ยังไม่เสร็จซะที นั่นคือ สัญญาณว่ากระบวนการของคุณต้องการการปรับแต่งแก้ไขให้มันดีขึ้น
การปรับปรุงกระบวนการทางธุรกิจ เป็นการทำให้การทำงานของคุณราบรื่น ยิ่งขึ้น เร็วขึ้น และมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ใช่แค่การลดต้นทุน แต่เป็นการสร้างระบบที่ทำงานได้อย่างชาญฉลาด ไม่ใช่ทำงานหนักเกินไป
คิดซะว่าเหมือนการปรับแต่งเครื่องยนต์รถยนต์ ถ้าส่วนหนึ่งมีปัญหา การขับขี่ทั้งหมดก็จะรู้สึกไม่ราบรื่น แต่เมื่อทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง คุณจะได้การขับขี่ที่ราบรื่นและมีพลัง เช่นเดียวกันกับการดำเนินงานของธุรกิจของคุณ
เกิดอะไรขึ้นเมื่อคุณไม่ปรับปรุง
เสียเวลาไปกับงานที่ทำซ้ำๆ
ความสับสนเกี่ยวกับบทบาทและความรับผิดชอบ
เกิดข้อผิดพลาดและต้องทำงานใหม่มากขึ้น
ต้นทุนการดำเนินงานสูงขึ้น
พนักงานและลูกค้ารู้สึกผิดหวัง เกิดปัญหาอะไรบ่อยๆ
ฟังดูคุ้นเคยเหมือนเกิดที่องค์กรไหม ถ้าอย่างนั้นถึงเวลาต้องลงมือทำแล้ว...

วิธีการปรับปรุงกระบวนการทางธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ
การปรับปรุงกระบวนการทางธุรกิจไม่ใช่การแก้ไขเพียงครั้งเดียว แต่มันเป็นการเดินทางอย่างต่อเนื่อง นี่คือวิธีที่พวกเราได้นำไปใช้จริงในองค์กร มาเลย #LEANxACADEMY จะแชร์ให้เข้าใจทีละขั้นตอน
1. แผนที่กระบวนการปัจจุบันของคุณ (As is)
คุณไม่สามารถปรับปรุงสิ่งที่คุณไม่เข้าใจได้ เริ่มต้นด้วยการทำแผนที่กระบวนการที่มีอยู่ในปัจจุบันก่อน ใช้แผนภาพหรือไดอะแกรมเพื่อมองเห็นแต่ละขั้นตอน เครื่องมือ draw.io จะช่วยวาดกระบวนการได้ง่ายๆ เลย เครื่องมือนี้จะช่วยให้คุณเห็นจุดที่ติดขัดและขั้นตอนที่ไม่จำเป็น ตรงไหนเป็นยังไงบ้าง
ให้ลองถามตัวเองและทีมงานว่า
ขั้นตอนใดที่เพิ่มคุณค่า
ขั้นตอนใดที่ทำให้เกิดความล่าช้า (คอขวด ทำลายได้จะวิ่งฉิววว)
มีงานที่ซ้ำซ้อนหรือไม่
2. ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน (Target)
องค์กรหรือลูกค้าต้องการบรรลุอะไร การจัดส่งที่เร็วขึ้น ต้นทุนที่ต่ำลง คุณภาพที่ดีกว่า หรือเรื่องอื่นๆ ที่เพิ่งจะโดน CAR หรือ NCR ไปหมาดๆ กำหนดเป้าหมายที่สามารถวัดผลได้ เช่น ลดเวลาในการประมวลผลคำสั่งซื้อให้เหลือ 30% ภายใน 6 เดือน
3. มีส่วนร่วมจากทีมของคุณ (Engagement)
ทีมของคุณรู้จักกระบวนการเป็นอย่างดี รับฟังความคิดเห็นจากพวกเขา พวกเขาสามารถชี้ให้เห็นจุดที่มีปัญหาที่คุณอาจมองข้าม หรือบางที่ก็ไม่ได้สนใจ นอกจากนี้การมีส่วนร่วมจากพวกเขายังสร้างความเป็นเจ้าของและแรงจูงใจในการปรับปรุง
4. ใช้หลักการลีน (Lean Thinking)
การคิดแบบลีนเหมือนกับการใช้แว่นขยายเพื่อมองหาของเสีย อะไรช้า อะไรสูญเปล่า
มันช่วยให้คุณระบุและกำจัดสิ่งที่ไม่เพิ่มคุณค่า (Non-valued) คิดซะว่าเป็นการตัดไขมันออกเพื่อเปิดเผยแกนกลางที่มีประสิทธิภาพและกระชับ
5. ทำให้เป็นอัตโนมัติเมื่อเป็นไปได้ (Automation)
เทคโนโลยีคือเพื่อนของคุณที่นี่ ทำให้กระบวนการที่ซ้ำซ้อน เช่น การป้อนข้อมูลหรือการสร้างรายงาน เป็นอัตโนมัติ สิ่งนี้จะช่วยให้ทีมมีเวลามุ่งเน้นไปที่งานที่มีคุณค่าสูงกว่า เอา AI หรืออะไรที่เทคโนโลยีทำแทนคนมาใช้ได้จะดีมากๆ
6. ตรวจสอบและปรับปรุง (Check and Improvement)
การปรับปรุงเป็นกระบวนการที่ต่อเนื่อง ใช้ตัวชี้วัดผลการดำเนินงาน (KPIs) เพื่อติดตามความก้าวหน้า หากสิ่งใดไม่ทำงาน ให้ปรับเปลี่ยนมัน รักษาวงจรการให้เกิดข้อเสนอแนะในการทำงานอยู่เสมอ ให้กำลังใจทีมงานอยู่เรื่อยๆ
ตัวอย่างจริงของการปรับปรุงกระบวนการ
ขอเล่าเรื่องหนึ่งให้ฟัง บริษัทผลิตแห่งหนึ่งที่พวกเราร่วมงานด้วยประสบปัญหาเวลานำที่ยาวนาน และอัตราข้อบกพร่องที่สูง เราเริ่มต้นด้วยการทำวาดแผนที่กระบวนการผลิตในสายการผลิตก่อน มันเหมือนกับการคลายปมด้ายที่ยุ่งเหยิง
โดยการใช้ กลยุทธ์การปรับปรุงกระบวนการ เราสามารถระบุการตรวจสอบที่ไม่จำเป็นและเอกสารที่ซ้ำซ้อน เราได้ปรับปรุงการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น แนะนำการใช้ระบบอัตโนมัติในการตรวจสอบคุณภาพ และฝึกอบรมทีมงานเกี่ยวกับวิธีการแบบลีน
ผลลัพธ์คืออะไร เวลานำลดลง 40% อัตราข้อบกพร่องลดลง 25% และขวัญกำลังใจของพนักงานสูงขึ้น
มันเหมือนกับการเปลี่ยนจักรยานเก่าที่เป็นสนิมให้กลายเป็นจักรยานแข่งที่ทันสมัย

เครื่องมือและเทคนิคเพื่อช่วยให้ธุรกิจเพิ่มประสิทธิภาพ
คุณไม่จำเป็นต้องคิดค้นสิ่งใหม่ทั้งหมด มีเครื่องมือและเทคนิคมากมายที่สามารถแนะนำคุณในเส้นทางการเพิ่มประสิทธิภาพ
การสร้างสายธารคุณค่า (Value Stream Mapping - VSM) มองเห็นการไหลของวัสดุ ข้อมูล และเวลา รวมไปถึงอัตรส่วนคุณค่า
ไคเซน (Kaizen) การปรับปรุงเล็กน้อยอย่างต่อเนื่องที่รวมกันเป็นผลลัพธ์ที่ใหญ่ขึ้นในระยะยาว ทำซ้ำๆ ส่งผลมหาศาล
หลักการ 5S จัดระเบียบสถานที่ทำงานเพื่อความมีประสิทธิภาพและความปลอดภัย
ซิกซ์ซิกม่า (Six Sigma) ลดข้อบกพร่องและความแปรปรวนในกระบวนการ
ซอฟต์แวร์การจัดการกระบวนการธุรกิจ (Business Process Management - BPM) อัตโนมัติและติดตามการทำงานในรูปแบบดิจิทัล อาจจะลองวาดกระบวนการง่ายๆ ใน draw.io ที่แนะนำไปดูก่อนได้เลย
เลือกเครื่องมือที่เหมาะสมกับขนาดธุรกิจและเป้าหมายของคุณ จำไว้ว่าทางเลือกที่ดีที่สุดคือเครื่องมือที่คุณใช้จริง
วิธีรักษาโมเมนตัมให้ต่อเนื่อง
การเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการไม่ใช่โครงการที่ทำครั้งเดียว มันคือแนวคิด นี่คือวิธีการรักษาโมเมนตัม ให้มาทำต่อเนื่องไปเรื่อยๆ
เฉลิมฉลองชัยชนะเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อกระตุ้นทีมของคุณ
ตรวจสอบกระบวนการและ KPI อย่างสม่ำเสมอ
ส่งเสริมการสื่อสารและข้อเสนอแนะแบบเปิด
ลงทุนในการฝึกอบรมและพัฒนา
ติดตามเทคโนโลยีและวิธีการใหม่ ๆ
คิดถึงมันเหมือนการทำสวน คุณไม่เพียงแค่ปลูกเมล็ดแล้วลืมมัน คุณต้องรดน้ำ ตัดแต่ง และดูแลเพื่อให้เห็นการเติบโต
ขั้นตอนถัดไปของคุณในการปรับปรุงกระบวนการธุรกิจ
ตอนนี้ที่คุณรู้วิธีการแล้ว ถึงเวลาที่จะลงมือทำ เริ่มต้นจากเล็ก ๆ เลือกกระบวนการหนึ่งเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและใช้กลยุทธ์เหล่านี้ คุณจะประหลาดใจว่าการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยสามารถสร้างความแตกต่างได้มากเพียงใด
หากคุณต้องการเจาะลึกมากขึ้น ลองดูกรณีศึกษาเกี่ยวกับ กลยุทธ์การเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการ มันเต็มไปด้วยข้อมูลเชิงลึกและเคล็ดลับที่เป็นประโยชน์เพื่อช่วยคุณในเส้นทางนี้
จำไว้ว่า... ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ทุกอย่างเริ่มต้นด้วยก้าวแรก
ขอให้เราทำให้กระบวนการธุรกิจของคุณมีประสิทธิภาพมากขึ้น เร็วขึ้น และชาญฉลาดขึ้นในวันนี้


























Comments