การให้คำปรึกษาตามแนวทาง 4P Model ผสาน ACSM - SCOR DS
- Dr.Eng.Siripong Jungthawan
- 2 days ago
- 2 min read
1. Performance (ประสิทธิภาพ)
Performance เกี่ยวข้องกับการวัดผลลัพธ์ของการดำเนินงานในองค์กร โดยใช้ตัวชี้วัด (Metrics) ที่สอดคล้องกับเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ SCOR DS เน้นการวัดผลในมิติต่างๆ เช่น ความน่าเชื่อถือ (Reliability), ความรวดเร็ว (Responsiveness), ความยืดหยุ่น (Agility), ต้นทุน (Cost), และประสิทธิภาพการใช้ทรัพย์สิน (Asset Management Efficiency)
ตัวอย่างตัวชี้วัดที่ใช้
• ยอดขาย (Revenue) วัดรายได้จากการขายผลิตภัณฑ์หรือบริการ สามารถใช้ Metrics เช่น รอบเวลาในการเติมเต็มสินค้าตามคำสั่งซื้อ (Order Fulfillment Cycle Time) เพื่อดูว่าระยะเวลาการส่งมอบส่งผลต่อยอดขายอย่างไร
• กำไร (Profit) วัดอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) และเปรียบเทียบกับต้นทุนการดำเนินงาน (Total Supply Chain Management Cost)
• ต้นทุน (Cost) วิเคราะห์ต้นทุนทั้งหมดในโซ่อุปทาน เช่น Cost to Serve (CTS), Cost of Goods Sold (COGS) และ Logistics Cost
• คุณภาพ (Quality) ใช้เปอร์เซ็นต์ของคำสั่งซื้อที่สมบูรณ์แบบ (Perfect Order Fulfillment : POF) เพื่อวัดความถูกต้องและคุณภาพของการส่งมอบ
• ระยะเวลาการส่งมอบ (Delivery Time) วัดด้วยระยะเวลาเติมเต็มคำสั่งซื้อ (Order Fulfillment Lead Time) หรืออัตราการส่งมอบสินค้าทันเวลา (On-Time Delivery Rate)
• ตัวชี้วัดอื่นๆ เช่น รอบหมุนเวียนสินค้าคงคลัง (Inventory Turnover), รอบเวลาวัฎจักรเงินสด (Cash-to-Cash Cycle Time), และผลตอบแทนการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรของโซ่อุปทาน (Return on Supply Chain Fixed Assets) เพื่อดูประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากร
แนวทางการให้คำปรึกษา
• ใช้ SCOR DS Metrics เพื่อกำหนด KPI ที่ชัดเจนและวัดผลได้
• วิเคราะห์ข้อมูลด้วยเครื่องมือดิจิทัล เช่น Digital Twin หรือ Analytics Dashboard เพื่อระบุจุดที่ต้องปรับปรุง
• เปรียบเทียบผลลัพธ์กับ Benchmark ของอุตสาหกรรมจาก ASCM เพื่อหาโอกาสในการพัฒนา

2. Practice (แนวปฏิบัติ)
Practice เป็นแนวทางหรือวิธีการที่องค์กรใช้ในการปฏิบัติงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย SCOR DS ระบุแนวทางที่เป็นเลิศ (Best Practices) เจ๋งที่สุดในตอนนี้ ที่สามารถนำไปปรับใช้ได้ เช่น การใช้เทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Transformation) และแนวปฏิบัติที่เน้นความยั่งยืน (Sustainability)
ตัวอย่างแนวปฏิบัติ
• การจัดการแบบลีน (Lean Management) ลดของเสียในกระบวนการผลิตและโซ่อุปทาน (เช่น การลด Overproduction หรือ Waiting Time)
• Six Sigma ใช้ DMAIC (Define, Measure, Analyze, Improve, Control) เพื่อปรับปรุงคุณภาพและลดข้อผิดพลาด
• Digital Tools นำเทคโนโลยี เช่น IoT, AI, และ Blockchain มาใช้เพื่อเพิ่มความโปร่งใสและประสิทธิภาพในโซ่อุปทาน
• Sustainability Practices ลดการใช้พลังงานและของเสียตามแนวทาง SCOR DS เช่น การใช้ Green Logistics หรือ Circular Supply Chain
• สร้างความร่วมมือระหว่างกัน (Collaboration) สร้างความร่วมมือระหว่างซัพพลายเออร์ ลูกค้า และพันธมิตรโดยใช้ Collaborative Planning, Forecasting, and Replenishment (CPFR)
แนวทางการให้คำปรึกษา
• ระบุ เลือก ออกแบบวิธีการที่เหมาะสมกับองค์กรนั้นๆ โดยอ้างอิงจาก Best Practices จาก SCOR DS ที่เหมาะสมกับบริบทขององค์กร
• ออกแบบแผนการฝึกอบรมและถ่ายทอดแนวปฏิบัติให้ทีมงาน
• ใช้เครื่องมือดิจิทัลเพื่อติดตามผลและปรับปรุงแนวปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง
3. Process (กระบวนการ)
Process ครอบคลุมถึงกระบวนการทำงานในโซ่อุปทาน ซึ่ง SCOR DS แบ่งออกเป็น 6 กระบวนการหลัก
ได้แก่ Plan, Source, Make, Deliver, Return, และ Enable การวิเคราะห์และปรับปรุงกระบวนการจะช่วยให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในทุกขั้นตอน
• Plan (การวางแผนโซ่อุปทาน) เช่น การพยากรณ์ความต้องการ (Demand Forecasting) และการวางแผนทรัพยากร (Resource Planning)
• Source (การจัดหาวัตถุดิบและซัพพลายเออร์) เช่น การเลือกซัพพลายเออร์ที่มีความน่าเชื่อถือและต้นทุนต่ำ
• Make: การผลิตหรือการประกอบสินค้า เช่น การใช้ระบบทันเวลา (Just-In-Time : JIT) หรือระบบอัตโนมัติ (Automation) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
• Deliver (การจัดส่งสินค้า) เช่น การจัดการโลจิสติกส์และคลังสินค้าให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
• Return (การจัดการการคืนสินค้าและการรีไซเคิล) เช่น การออกแบบโลจิสติกส์ย้อนกลับ (Reverse Logistics)
• Enable (การสนับสนุนกระบวนการ) เช่น การจัดการข้อมูล (Data Management) และการใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
แนวทางการให้คำปรึกษา
• ใช้ SCOR DS Process Framework เพื่อวิเคราะห์กระบวนการเดิม และออกแบบกระบวนการใหม่ที่เหมาะสม
• นำเครื่องมือ เช่น วาดกระบวนการ (Process Mapping) และวาดสายธารคุณค่า (Value Stream Mapping : VSM) มาใช้เพื่อระบุจุดที่ไม่มีประสิทธิภาพ
• ผสานเทคโนโลยีดิจิทัล เช่น การวางแผนทรัพยากรวิสาหกิจ ERP (Enterprise Resource Planning) หรือซอฟต์แวร์ระบบโซ่อุปทาน (SCM Software) เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นและความเร็ว

4. People (บุคคล)
People เป็นหัวใจของการดำเนินงานในองค์กร SCOR DS เน้นการพัฒนาทักษะและความสามารถของบุคลากร รวมถึงการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่สนับสนุนการเปลี่ยนแปลงและนวัตกรรม
• การพัฒนาทักษะ จัดโปรแกรมฝึกอบรมตาม ASCM องค์ความรู้ (Body of Knowledge : BOK) เช่น การอบรม CPIM (Certified in Planning and Inventory Management) หรือ CSCP (Certified Supply Chain Professional)
• หน่วยรบพิเศษ (Special Task Force) สร้างทีมงานเฉพาะกิจเพื่อจัดการโปรเจกต์สำคัญ เช่น การเปลี่ยนผ่านสู่ Digital Supply Chain หรือการแก้ไขปัญหาคอขวดในกระบวนการ
• วัฒนธรรมองค์กร (Culture) ส่งเสริมวัฒนธรรมที่เน้นการทำงานเป็นทีม ความรับผิดชอบ และการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง
• พัฒนาผู้นำ (Leadership Development) พัฒนาผู้นำในองค์กรให้สามารถขับเคลื่อนกลยุทธ์ซัพพลายเชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• ทำให้พนักงานมีส่วนร่วม (Employee Engagement) ใช้เครื่องมือ เช่น แบบสำรวจ (Employee Surveys) หรือข้อเสนอแนะต่างๆ (Feedback Loops) เพื่อเพิ่มความผูกพันและประสิทธิภาพของพนักงาน
แนวทางการให้คำปรึกษา
• ออกแบบโปรแกรมพัฒนาทักษะที่สอดคล้องกับเป้าหมายของ SCOR DS
• สร้างทีมงานข้ามสายงานเพื่อแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อน
• ใช้เครื่องมือ เช่น ระบบการจัดการความสามารถ (Talent Management Systems) เพื่อติดตามและพัฒนาความสามารถของพนักงาน
สรุปแนวทางการให้คำปรึกษาตามหลักการ ASCM SCOR DS
การให้คำปรึกษาตามแนวทาง 4P ที่ผสาน SCOR DS ASCM จะช่วยให้องค์กรสามารถบริหารจัดการซัพพลายเชนและการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเน้น 4 ขั้นตอนนี้
• การวัดผลด้วย Metrics ที่ชัดเจนและเปรียบเทียบกับมาตรฐานอุตสาหกรรม
• การนำ Best Practices และเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้
• การออกแบบกระบวนการที่เป็นระบบและยืดหยุ่น
• การพัฒนาบุคลากรและสร้างวัฒนธรรมที่สนับสนุนการเปลี่ยนแปลง
#LEANxACADEMY เราให้คำปรึกษาธุรกิจชั้นนำกว่า 400 แห่ง เพื่อให้องค์กรมีความสามารถที่เป็นเลิศ ด้วยการพัฒนาทั้งยุทธศาสตร์ กลยุทธ์ ยุทธวิถีต่างๆ เพื่อนำพาองค์กรให้เป็นผู้นำในแต่ละภาคส่วนธุรกิจ