ที่ปรึกษา วิทยากร ยุค AI ต้องทำอย่างไร

Dr.Eng.Siripong Jungthawan
2 hours ago
1 min read

เอาจริง ๆ เลยนะครับ…

ผมเป็นทั้ง อาจารย์มหาวิทยาลัย วิทยากร และที่ปรึกษาในองค์กร

ผมเข้าใจหัวอกของเพื่อนอาจารย์ วิทยากร รวมไปถึงผู้บริหาร และผู้นำทุกคนดี

ว่าเวลายืนอยู่หน้าชั้นหรือห้องประชุม

เรามักจะถามตัวเองว่า“สิ่งที่เราสอนหรือถ่ายทอดไป มันจะช่วยให้ลูกศิษย์หรือทีมของเรา เอาไปต่อสู้ในโลกจริงได้ไหม?”

ทุกวันนี้ AI มันร้ายกาจเหลือเกินงานหลายอย่างที่เมื่อก่อนเด็กจบใหม่ทำได้สบาย ๆ ตอนนี้ AI ทำได้เร็วกว่า ถูกกว่า และบางครั้งยังดีกว่าด้วย ไม่ว่าจะเป็นงานวิเคราะห์ข้อมูล เขียนโค้ด หรือหาข้อมูลพื้นฐาน เด็ก ๆ แข่งไม่ทันจริง ๆ

ดร.วศ.สิริพงศ์ จึงถาวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการแบบลีน LEANxACADEMY ได้รับมอบรางวัลที่ปรึกษาตัวอย่างแห่งปี 2567 (DIPROM Consultant Award 2024) ประเภท SMEs สาขาบริหารต้นทุนดีเด่น ในเวทีศักยภาพที่ปรึกษา มุ่งพัฒนา MSMEs ให้ดีพร้อม

ตรงนี้แหละครับที่ทำให้ผมเริ่มคิดใหม่ ว่าถ้า “ทฤษฎีและหลักการ” ที่เราเคยสอน

แค่ถาม AI มันก็ตอบได้ครบและไวกว่าแสง แล้วเราจะสอนอะไรให้เด็กรอดในโลกอนาคต?

ถึงเวลาเปลี่ยนเกมการสอนและการพัฒนา

สิ่งที่เราควรหันมาโฟกัสคือ “ทักษะที่เป็นมนุษย์ล้วน ๆ” ที่ AI ยังแทนไม่ได้ ได้แก่

#คิดวิเคราะห์แบบถึงแก่น สอนให้ทีมตั้งคำถามเก่ง มองปัญหาให้ทะลุ ไม่ติดกรอบเดิม ๆเพราะ AI เก่งในสิ่งที่ “เคยมีคำตอบ” แต่ยังสับสนกับโจทย์ใหม่ ๆ ที่ต้องตีความสร้างสรรค์
#ความคิดสร้างสรรค์ ให้ทีมกล้าคิดนอกกรอบ แหกกฎบ้างอย่างมีคุณค่าเพราะ AI เลียนแบบเก่ง แต่ยังคิดอะไรใหม่ ๆ แบบแหวกแนวไม่ทันคน
#ความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) เข้าใจคนอื่น ทำงานเป็นทีม สร้างแรงบันดาลใจตรงนี้ AI ยังไม่มีหัวใจที่จะจับสัญญาณเหล่านี้ได้
#เรียนรู้ไม่หยุด โลกเปลี่ยนเร็ว ทักษะวันนี้ อีก 5 ปีอาจใช้ไม่ได้แล้วสิ่งที่ต้องมี คือ “ใจที่พร้อมจะเรียนรู้ตลอดชีวิต”
#จริยธรรมและมุมมองต่อ AIเพราะ AI ไม่ใช่แค่เครื่องมือ แต่มันมีผลกระทบต่อสังคม การใช้ผิดทางอาจกลายเป็นดาบสองคม

หนังสือชุดพัฒนาผู้ประกอบการ LEAN Series

บทบาทของอาจารย์ วิทยากร และที่ปรึกษา

ตรงนี้ผมอยากบอกว่า… สิ่งที่ AI ไม่มีวันให้ทีม ได้ คือ

“ประสบการณ์จริง” และ “มุมมองลึก ๆ” ของที่ปรึกษา

การเล่าเรื่องจากชีวิตจริง (Storytelling) ประสบการณ์ทำงานต่างๆ จากหลากหลายแหล่ง
การให้ทีมลองแก้เคสจริง ๆ (Case Study) ด้วย พลังของ AI เสริมกับการวางแผนของคน ทำให้ผลลัพธ์ดีขึ้น 10x
การให้ลงมือทำโปรเจกต์ (Project-based Learning) เอาปัญหาจริง งานจริงมาเรียนรู้ มาทดลองพัฒนาไปพร้อมๆ กัน

นี่แหละครับคือเวทีที่ AI ไม่มีวันแทนเราได้